“การแปลเอกสารกฎหมายเบื้องต้น (Introduction to Legal Translation)”
รายละเอียดคอร์สเรียน
“การแปลเอกสารกฎหมายเบื้องต้น (Introduction to Legal Translation)”
วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม - วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม 2569
เวลา 09.00 - 12.00 น. รวมทั้งสิ้น 30 ชั่วโมง เรียนในรูปแบบ Online
ราคาค่าอบรมท่านละ 8,000 บาท
การแปลเอกสารกฎหมายเป็นการแปลเฉพาะทาง (Specialised Translation) นอกจากความรู้และทักษะภาษาอังกฤษในการถ่ายทอดความหมายแล้ว ผู้แปลต้องมีความรู้ความเข้าใจเฉพาะด้านเกี่ยวกับทำเนียบภาษากฎหมาย (Legal Register) ที่ใช้อยู่ในเอกสารกฎหมายทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ หลักสูตรนี้นำเสนอกรอบแนวคิดสำหรับการวิเคราะห์ต้นฉบับที่เป็นเอกสารกฎหมายอย่างเป็นระบบ ผู้เรียนจะได้เรียนรู้วิธีการแยกส่วนประกอบของภาษาที่ใช้ในเอกสารกฎหมายที่ซับซ้อน และทำความเข้าใจธรรมเนียมปฏิบัติทางภาษาที่ซับซ้อนซึ่งใช้ในวาทกรรมทางกฎหมายในทั้งสองภาษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแปลจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ หลักสูตรนี้เน้นย้ำการประยุกต์ใช้หลักการ Plain Legal English และหลีกเลี่ยงการใช้ภาษากฎหมายแบบดั้งเดิม (Legalese) ทำให้ข้อความภาษาแปลมีความหมายชัดเจน กระชับรัดกุม และอ่านเข้าใจได้ง่าย ทั้งยังคงรักษาความแม่นยำทางกฎหมายได้ตามเจตนารมณ์ของต้นฉบับ ในขณะเดียวกันภาษาแปลอ่านเข้าใจง่าย ซึ่งเป็นทักษะที่สำนักงานกฎหมายระหว่างประเทศ บริษัทข้ามชาติ และหน่วยงานกำกับดูแลให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้น
วัตถุประสงค์
เมื่อศึกษาเนื้อหาต่าง ๆ ครบตามที่หลักสูตรกำหนดแล้ว ผู้เข้าอบรมควรสามารถ
- ประยุกต์ใช้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับทำเนียบภาษากฎหมาย (Legal Register) ในการแปลเอกสารกฎหมายได้ทั้งในระดับคำ วลี อนุประโยค และประโยค
- ใช้ภาษากฎหมาย (Language of the Law) ในการทำความเข้าใจและถ่ายทอดความหมายใจความหลักในเอกสารกฎหมายทั้ง 4 เรื่องได้แก่ การกำหนดหน้าที่ การกำหนดสิทธิ การกำหนดข้อห้าม และการแถลงข้อเท็จจริงและหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ในเชิงนโยบายได้อย่างถูกต้องแม่นยำแม้ว่าผู้แปลจะไม่มีความรู้นิติศาสตร์
- วิเคราะห์ต้นฉบับที่เป็นเอกสารกฎหมาย และแสดงออกในภาษาปลายทางได้อย่างถูกต้อง มีระบบและหลักการตามศาสตร์การแปล
- ประเมินค่าทรัพยากรการแปลที่สำคัญในการทำงานแปลเอกสารกฎหมาย
หัวข้อการอบรม
1 ทำเนียบภาษากฎหมาย (Legal Register) แนวคิดเกี่ยวกับ Plain Legal English และ Legalese ในเอกสารกฎหมาย
2 ระเบียบวิธีคิดในเอกสารกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรอบความคิดในการเขียนกฎเกณฑ์ (Rule Writing Framework)
3 เนื้อหาที่สำคัญในเอกสารกฎหมาย ได้แก่ สิทธิ หน้าที่ ข้อห้าม และหลักเกณฑ์ต่าง ๆ
4 การวิเคราะห์ต้นฉบับและการแสดงออกในภาษาปลายทาง
5 การประเมินค่าและเลือกใช้ทรัพยากรการแปลที่สำคัญในการแปลเอกสารกฎหมาย
** เนื่องจากในรายวิชานี้ ผู้สอนมิได้นำเสนอความรู้เกี่ยวกับไวยากรณ์ภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน หากแต่นำเสนอวิชาการแปลเอกสารกฎหมายที่ต้องอาศัยความรู้ภาษาอังกฤษในบริบททางกฎหมายในระดับปฏิบัติการสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพ (Advanced Professional Level) ดังนั้น ผู้เรียนจึงควรต้องมีพื้นฐานภาษาอังกฤษในระดับดีมาก (IELTS ไม่น้อยกว่า 6.5 หรือเทียบเท่า โดยมีคะแนนในส่วน Reading and Writing อย่างน้อย 7 ในกรณี IELTS หรือเทียบเท่า) หรือสำเร็จการศึกษาวิชานิติศาสตร์และได้ประกอบวิชาชีพทางกฎหมายมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี หรือประกอบวิชาชีพเป็นนักแปลเอกสาร
*** วิชานี้เหมาะสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายและนักแปลเอกสารกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรผ่านหลักสูตรวิชา “ภาษาอังกฤษในบริบททางกฎหมาย (Plain Legal English)” ของศูนย์บริการวิชาการ และศูนย์การแปลและการล่ามเฉลิมพระเกียรติ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาแล้ว